ทราบกันดีว่าคอมพิวเตอร์
เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค ที่มีประโยชน์อย่างสูงในการทำงาน
คอมพิวเตอร์ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคต่างๆ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มีอะไรบ้าง
คงจะแจกแจง อธิบายการใช้งานไม่ครบทุกตัว แต่อยากจะให้ทุกท่าน ลองจินตนาการ
คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง คือ มนุษย์ 1คน ประกอบไปด้วย ส่วนต่างๆ
ของร่างกาย โดยมี แขน ขา ลำตัว หัว หู และสมอง
ประกอบกันเป็นร่างกายคอมพิวเตอร์ก็เช่นกัน
จากภาพจะเป็นชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคต่างๆที่ทำหน้าที่แตกต่างกันไป
เหมือนการทำงานของอวัยต่างๆของร่างกาย อาจจะกล่าวได้ว่า คอมพิวเตอร์ถูกสร้างขึ้นมาจากการเลียนแบบการทำงานของอวัยวะมนุษย์
ก็ได้
ฮาร์ดดิส เปรียบได้เหมือนสมองส่วนความจำ ของมนุษย์
ที่ถูกเก็บมาตั้งแต่แรกเกิด สามารถดึงมาใช้งานเมื่อใดก็ได้
CPU (หน่วยประมวลผล) เปรียบได้เหมือน
สมองในส่วนการคิดวิเคราะห์ และการตัดสินใจ โดยการนำข้อมูลจาก RAM (ความจำชั่วคราว) มาประมวลผล เพื่อสั่งให้ร่างกาย หรือ อุปกรณ์
ต่างๆทำงานตามระบบ
Ram หรือ(ความจำชั่วคราว) เปรียบได้เหมือน
ความจำ หรือการนึกได้ ณ ขณะที่กำลังทำงาน หรือ คิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
โดยการดึงข้อมูลมาจาก ฮาร์ดดิส หรือสมองส่วนความจำ สั่งการให้ร่างกาย หรือโปรแกรม
ให้ทำงานในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ถ้าเราลองสังเกตการใช้งานคอมพิวเตอร์
หากเราเปิดโปรแกรมต่างๆไว้เป็นจำนวนมาก พร้อมกัน
เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นก็จะทำงานช้าลง หรือเกิดอาการเครื่องค้างไปในที่สุด
สมองคนเราก็เช่นกัน หากดึงข้อมูลเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามาคิดมากมาย ข้อมูลก็จะถูกส่งไปประมวลผล และกลับมาไว้ที่ Ram (ความจำชั่วคราว) อยู่ตลอดเวลา ก็จะทำให้ร่างกายตอบสนองช้า
รู้สึกอ่อนเพลียก็เป็นได้
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นระบบทางกายภาพ
เพื่อให้ท่านได้เข้าใจหน้าที่การทำงานของตัวอุปกรณ์ แต่สิ่งที่สำคัญ คือข้อมูล
และกระบวนการทางความคิด และ ตัดสินใจ ที่มีอยู่ในมนุษย์ ซึ่งในทางคอมพิวเตอร์
เรียกว่า ซอฟแวร์ (Soft ware)
ซอฟแวร์ คือ ชุดคำสั่งต่างๆ ประกอบไปด้วย
คำสั่งที่ใช้ในการตัดสินใจ การคำนวณ
คำสั่งในการประมวลผลจากข้อมูลที่อยู่ในฐานข้อมูลหรือการรับข้อมูลจากภานอก
ซึ่งอาจจะมีเป็นล้านๆคำสั่ง เพื่อให้คอมพิวเตอร์สั่งการ หรือควบคุมอุปกรณ์
หรือประมวลผลได้อย่างถูกต้อง ตามที่เราต้องการ
ชุดคำสั่งนี้จะถูกเก็บรวบรวมไว้ที่ฮาร์ดดิส
โดยการทำงานของซอฟแวร์ จะทำงานตามคำสั่ง เรียงลำดับความสำคัญก่อนหลัง
กล่าวคือ เป็นการทำงานอย่างเป็นลำดับขั้นตอน จาก A ไป B จาก B ไป C เปรียบเหมือนวิธีคิดหรือวิธีการทำงานของเรา
หากมีแนวคิดปฎิบัติ อย่างเป็นขั้นตอนแล้ว งานที่ออกมาก็จะถูกต้อง
ตามที่บริษัทฯต้องการ
จากภาพคือตัวอย่าง ที่แสดงถึงการทำงานตามลำดับขั้นตอน
ของคอมพิวเตอร์ โดยจะต้องเกิดคำสั่งที่ 1. นำมาเปรียบเทียบกับเงื่อนไข
จึงจะเกิดเป็นคำสั่ง ที่ 2 3 4 ตามลำดับ
คอมพิวเตอร์ เมื่อใช้งานไปได้ระยะหนึ่ง
ผู้ใช้จะมีความรู้สึกว่าช้า เรียกโปรแกรมแต่ละทีแสนนานไม่ทันใจ
เพราะเนื่องจากการเก็บข้อมูลลงไปในฮาร์ดดิส ที่ไม่เป็นระเบียบในตัวฮาร์ดดิสโดยปกติ
จะมีจานกลมๆ คล้ายแผ่น CD เป็นตัวจัดเก็บข้อมูล
สามารถ ลบ หรือเขียนทับได้ข้อมูลจะถูกบันทึกลงไปในจาน ซึ่งจะแบ่งเนื้อที่เป็นห้องๆ
ทางคอมพิวเตอร์จะเรียกว่า SECTOR โดยมีหัวเข็ม
เป็นตัวอ่านข้อมูลและส่งผ่านไปยัง RAM
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีการใช้งานหรือลงระบบปฏิบัติการใหม่ข้อมูลจะถูกจัดเรียงต่อกันอย่างเป็นระเบียบ
เมื่อมีการใช้งานข้อมูลหากมีการลบไฟล์ออกจากฮาร์ดดิส Sector ที่เคยมีข้อมูลอยู่
จะเปลี่ยนเป็นห้องว่าง ถ้ามีการบันทึก หรือมีการแก้ไขงานใหม่
ระบบจะทำการบันทึกลงฮาร์ดดิสทันทีโดยจะเริ่มจากพื้นที่ว่างของจานที่หมุนไปเจอหัวเข็ม
โดยไม่สนใจตำแหน่งเดิม ที่มันเคยอยู่
ทำให้ข้อมูลที่บันทึกมีความกระจัดกระจายไม่ต่อเนื่อง โดยใน 1 ไฟล์ ข้อมูล
อาจจะอยู่ห่างกันหลายร้อย Sector ด้วยเหตุนี้เมื่อมีการเรียกใช้งานไฟล์เดิมที่ถูกบันทึกแบบกระจัดกระจาย หัวเข็มก็จะต้องใช้เวลาในการค้นหาข้อมูลจากจานให้ครบก่อนแล้วจึงส่งข้อมูลทั้งหมดไปถึง RAM จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการประมวลผล หรือทำกิจกรรมต่างๆได้
จึงได้มีผู้คิดค้น Software เพื่อมาแก้ไขปัญหาเหล่านี้
ซึ่งเรียกกระบวนการนี้โดยรวมว่า การทำ Defragment หรือ
เป็นการจัดเรียงข้อมูลที่มีอยู่ในฮาร์ดดิสให้มีการเรียงที่ต่อเนื่องกันโดยจัดให้ Sector ที่มีข้อมูลเรียงกัน และ ตามด้วยSector ที่ไม่มีข้อมูล เพื่อที่ทำให้หัวเข็ม ค้นหาข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น
การที่ยกตัวอย่างเปรียบเทียบการทำงานระหว่างร่างกายมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ข้างต้นโดยมุ่งเน้นในส่วนของการประมวลผลการจดจำ การวิเคราะห์ เพื่อให้ทุกท่านมองเห็นภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ เพื่อนำมาประยุกใช้กับการทำงานของเรา โดยจากเดิมผู้คิดค้นระบบคอมพิวเตอร์ ได้เลียนแบบกระบวนการคิด วิเคราะห์แบบมีขั้นตอนตามลำดับจากมนุษย์ แต่มาวันนี้เราอาจจะต้องรู้จักการเรียนรู้ กระบวนการทำงานของคอมพิวเตอร์ เพื่อมาปรับใช้กับการทำงานของเรา โดยสรุปแล้ว การทำงานจะมีความถูกต้องนั้น ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการทางความคิด การทำงานอย่างมีขั้นตอน และที่สำคัญที่สุดคือ สมาธิ
สมาธิ เป็นการจัดเรียงลำดับข้อมูลในสมองให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สามารถนำข้อมูลมาใช้งานได้ทันที จะสังเกตุได้จาก เมื่อเราต้องการใช้ความคิด การอยู่ในที่ที่เสียงดัง คนพลุกพล่าน ทำให้เราวอกแวกไปคิดถึงเหตุการณ์รอบตัวเรา จึงทำให้เราขาดสมาธิในการคิดเรื่องนั้นๆไป กลับกัน หากจิตใจสงบลง ไม่หวั่นไหวกับสิ่งรอบข้าง ความคิดเรื่องนั้นๆ ก็จะแสดงออกมาได้โดยง่าย
มี SoftWare ตัวไหนบ้าง? ที่ทำให้เราสามารถเรียงข้อมูลในสมอง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ฝึกกระบวนการคิดแบบมีขั้นตอน
2. นอนพักผ่อนเยอะๆ
3. การทำสมาธิ
// สรุปได้ว่า การทำงานอย่างมีขั้นตอน ตามลำกับก่อนหลัง
อีกทั้งการมีสมาธิในขณะทำงาน จะทำให้เราทำงานได้อย่างถูกต้อง ลดการผิดพลาดของงาน
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อเราได้ทราบถึงกระบวนการทำงานของคอมพิวเตอร์
แล้วเราก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานของเราได้
ฮาร์ดดิส เปรียบได้เหมือนสมองส่วนความจำ ของมนุษย์ ที่ถูกเก็บมาตั้งแต่แรกเกิด สามารถดึงมาใช้งานเมื่อใดก็ได้
Ram หรือ(ความจำชั่วคราว) เปรียบได้เหมือน ความจำ หรือการนึกได้ ณ ขณะที่กำลังทำงาน หรือ คิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยการดึงข้อมูลมาจาก ฮาร์ดดิส หรือสมองส่วนความจำ สั่งการให้ร่างกาย หรือโปรแกรม ให้ทำงานในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ถ้าเราลองสังเกตการใช้งานคอมพิวเตอร์ หากเราเปิดโปรแกรมต่างๆไว้เป็นจำนวนมาก พร้อมกัน เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นก็จะทำงานช้าลง หรือเกิดอาการเครื่องค้างไปในที่สุด สมองคนเราก็เช่นกัน หากดึงข้อมูลเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามาคิดมากมาย ข้อมูลก็จะถูกส่งไปประมวลผล และกลับมาไว้ที่ Ram (ความจำชั่วคราว) อยู่ตลอดเวลา ก็จะทำให้ร่างกายตอบสนองช้า รู้สึกอ่อนเพลียก็เป็นได้
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นระบบทางกายภาพ เพื่อให้ท่านได้เข้าใจหน้าที่การทำงานของตัวอุปกรณ์ แต่สิ่งที่สำคัญ คือข้อมูล และกระบวนการทางความคิด และ ตัดสินใจ ที่มีอยู่ในมนุษย์ ซึ่งในทางคอมพิวเตอร์ เรียกว่า ซอฟแวร์ (Soft ware)
ซอฟแวร์ คือ ชุดคำสั่งต่างๆ ประกอบไปด้วย คำสั่งที่ใช้ในการตัดสินใจ การคำนวณ คำสั่งในการประมวลผลจากข้อมูลที่อยู่ในฐานข้อมูลหรือการรับข้อมูลจากภานอก ซึ่งอาจจะมีเป็นล้านๆคำสั่ง เพื่อให้คอมพิวเตอร์สั่งการ หรือควบคุมอุปกรณ์ หรือประมวลผลได้อย่างถูกต้อง ตามที่เราต้องการ ชุดคำสั่งนี้จะถูกเก็บรวบรวมไว้ที่ฮาร์ดดิส
โดยการทำงานของซอฟแวร์ จะทำงานตามคำสั่ง เรียงลำดับความสำคัญก่อนหลัง กล่าวคือ เป็นการทำงานอย่างเป็นลำดับขั้นตอน จาก A ไป B จาก B ไป C เปรียบเหมือนวิธีคิดหรือวิธีการทำงานของเรา หากมีแนวคิดปฎิบัติ อย่างเป็นขั้นตอนแล้ว งานที่ออกมาก็จะถูกต้อง ตามที่บริษัทฯต้องการ
จึงได้มีผู้คิดค้น Software เพื่อมาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ซึ่งเรียกกระบวนการนี้โดยรวมว่า การทำ Defragment หรือ เป็นการจัดเรียงข้อมูลที่มีอยู่ในฮาร์ดดิสให้มีการเรียงที่ต่อเนื่องกันโดยจัดให้ Sector ที่มีข้อมูลเรียงกัน และ ตามด้วยSector ที่ไม่มีข้อมูล เพื่อที่ทำให้หัวเข็ม ค้นหาข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น
มี SoftWare ตัวไหนบ้าง? ที่ทำให้เราสามารถเรียงข้อมูลในสมอง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ฝึกกระบวนการคิดแบบมีขั้นตอน
2. นอนพักผ่อนเยอะๆ
3. การทำสมาธิ
// สรุปได้ว่า การทำงานอย่างมีขั้นตอน ตามลำกับก่อนหลัง อีกทั้งการมีสมาธิในขณะทำงาน จะทำให้เราทำงานได้อย่างถูกต้อง ลดการผิดพลาดของงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อเราได้ทราบถึงกระบวนการทำงานของคอมพิวเตอร์ แล้วเราก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานของเราได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น